แจกโทรศัพท์ฟรี

วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Samsung Galaxy Note 2 และ Galaxy S3 จะไม่ได้อัพ Android 4.2 แต่จะข้ามไปเป็น Android 4.3 แทน

 
                           






มีรายงานออกมาว่า Samsung นั้นเตรียมที่จะข้ามการอัพเดท Android 4.2.2 Jelly Bean ให้กับ Galaxy Note 2 และ Galaxy S3 ให้กลายเป็น Android 4.3 Jelly Bean แทน
โดยการอัพเดท Android 4.3 Jelly Bean ของทั้งสองรุ่นนี้ ตามข่าวลือระบุว่า จะมีการอัพเดทขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมปีนี้
นอกจากนี้แหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อยังได้ให้ข่าวว่า Samsung นั้นจะมีการอัพเกรด Galaxy S3, Galaxy S4, Galaxy Note 2 และ Galaxy Note 3 เป็น Android 5.0 Key Lime Pie ด้วย ก็ต้องรอดูกันต่อไปครับว่าการอัพเดทจะมีขึ้นจริงหรือไม่ เพราะตอนนี้ Google ก็ยังไม่ได้ประกาศเปิดตัว Android 4.3 หรือ Android 5.0 เลยแม้แต่น้อย

andorid-43



Angry Birds

Apple ปรับเปลี่ยนขนาดหน้าจอของ iPhone 5S เป็น 4.3 นิ้วแล้ว

 
                           








Apple ปรับเปลี่ยนขนาดหน้าจอของ iPhone 5S เป็น 4.3 นิ้วแล้ว ?

มีข่าวลือออกมาจากสำนักข่าว Bloomberg ครับ โดย Bloomberg ไปได้ข่าวมาว่า Apple ได้มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ของ iPhone รุ่นใหม่ หรือ iPhone 5S ให้มีขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นเล็กน้อยครับ โดยจากเดิมนั้นวางขนาดนหน้าจอไว้ที่ 4 นิ้ว แต่ Apple ก็มีการปรับเปลี่ยนให้กลายเป็น 4.3 นิ้วในขั้นตอนสุดท้ายก่อนการผลิต
ส่วนการเปิดตัวนั้นแหล่งข่าวบอกว่า น่าจะเป็นราวๆเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคมนี้ครับ

5s

ที่มา http://www.whatphone.net/home/iphone-5s-screen-to-4-3-inches/




Angry Birds

วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Nokia เผย 10 เหตุผลที่จะทำให้คุณต้องอยากใช้ Nokia Lumia 1020

 
                           












Nokia เผย 10 เหตุผลที่จะทำให้คุณต้องอยากใช้ Nokia Lumia 1020



แน่นอนว่า Nokia Lumia 1020 นั้นถือว่าเป็นสมาร์ทโฟน กล้องเทพ ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากในเวลานี้ เนื่องจากเป็นรุ่นที่เพิ่งจะเปิดตัวได้ไม่นาน รวมถึงสเปคของกล้องดิจิตอลนั้นก็เรียกได้ว่าจัดมาให้ได้ใช้งานกันแบบเต็มที่ โดยล่าสุดทางโนเกียได้มีการออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับ 10 เหตุผลที่จะทำให้คุณอยากได้ Nokia Lumia 1020 มาใช้งาน ลองมาดูกันครับว่า 10 เหตุผลที่ว่านั้นจะมีอะไรบ้าง

1.Nokia Lumia 1020 มาพร้อมกับกล้องดิจิตอลความละเอียดสูงถึง 41 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์ Image Stabilization หรือระบบป้องกันการสั่นไหวขณะถ่ายภาพ ช่วยให้คุณสามารถถ่ายภาพสวยๆได้อย่างง่ายดาย

2.Nokia Lumia 1020 นั้นจะมีแอพพลิเคชั่นตัวใหม่อย่าง Nokia Pro Camera ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งการถ่ายภาพในระดับมือโปรได้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่า ISO, สมดุลย์แสงสีขาว, ความเร็วชัตเตอร์, รูรับแสง และอื่นๆอีกมากมาย และด้วยซอฟต์แวร์ที่ดี บวกกับ กล้องดิจิตอลคุณภาพสูง ก็จะช่วยให้คุณได้ภาพถ่ายที่ดีกว่าที่เคย

3.Nokia Lumia 1020 สามารถถ่ายภาพ และ วีดีโอ ในสภาวะแสงน้อยได้เป็นอย่างดี

4.คุณยังคงสามารถปรับเปลี่ยน ขนาด และ ความละเอียดของภาพได้ตามความต้องการ เช่น หากคุณต้องการถ่ายเพื่อแชร์ภาพไปยัง Social Network ก็อาจจะเลือกความละเอียดแค่เพียง 5 ล้านพิกเซล เพื่อความรวดเร็ว

5.นอกจากจะถ่ายภาพแล้ว คุณยังสามารถแก้ไขภาพที่ถ่ายได้อย่างง่ายดาย

6.Nokia Lumia 1020 มาพร้อมกับไฟแฟลชแบบ Xenon ให้คุณสามารถถ่ายภาพในสถาวะแสงน้อย ให้มีความสว่างมากยิ่งขึ้น

7.คุณสามารถตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ได้ สูงสุดถึง 4 วินาที ซึ่งการตั้งค่าให้ถูกต้องต่อสภาวะในการถ่ายนั้นจะช่วยให้คุณได้ภาพในระดับมือโปรเลยทีเดียว

8.กล้องดิจิตอลด้านหลังของ Nokia Lumia 1020 นั้นสามารถซูมได้สูงสุดถึง 6 เท่า โดยไม่มีผลต่อความคมชัดของภาพ

9.ระบบเสียง Nokia Rich Recording stereo ที่ช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า ในด้านมัลติมีเดีย

10.Nokia Lumia 1020 เป็นสุดยอดสมาร์ทโฟนที่มีแอพพลิเคชั่นให้เลือกดาวน์โหลดกว่า 165,000 แอพพลิเคชั่น และ มี 22 ล้านเพลง รอให้คุณเข้าไปดาวนืโหลดใน Nokia Music
 






Angry Birds

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

อาคารประหยัดพลังงานหลังแรกของโลก ชไนเดอร์ใช้ระบบไอทีช่วยบริหารจัดการ



อาคารประหยัดพลังงานหลังแรกของโลก ชไนเดอร์ใช้ระบบไอทีช่วยบริหารจัดการ

อาคารเลอไฮว์ ในฝรั่งเศส สำนักงานของชไนเดอร์ เป็นอาคารประหยัดพลังงานหลังแรกของโลกที่ได้มาตรฐาน ISO 50001 ใช้เทคโนโลยีไอทีเข้ามาช่วยบริหารจัดการ พร้อมถ่ายทอดให้วางระบบให้ธุรกิจไทย

นายกษพล บวรศรีการ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการจัดการพลังงาน บริษัทชไนเดอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า อาคารสำนักงานใหญ่ของชไนเดอร์ในประเทศฝรั่งเศส ชื่อ อาคารเลอไฮว์ (Le Hive) ซึ่งหมายถึงรวงผึ้ง ซึ่งชไนเดอร์ ได้ใช้อาคารเก่ามาปรับปรุงคอนเซปต์ของอาคารเพื่อให้พนักงานช่วยกันทำงาน เหมือนผึ้งมีหน้าที่ชัดเจน อาคารนี้เป็นเหมือนอาคารแห่งนวัตกรรมใหม่ ๆ ของการอนุรักษ์พลังงาน และเป็นอาคารแรกของโลกที่ใช้มาตรฐาน ISO 50001 ด้านการอนุรักษ์พลังงาน

นายกษพล กล่าวว่า ในไทยจะคุ้นเคยกับอาคารกรีน หรืออาคารเขียวที่จะเน้นใช้วัสดุที่ช่วยประหยัดพลังงานในการออกแบบอาคาร แต่อาคารเลอไฮว์ ของ
ชไนเดอร์ เริ่มแรกต้องมีเป้าหมายชัดเจนเพื่อให้ผู้ใช้อาคารทั้ง 1,800 คน มีพฤติกรรมการประหยัดพลังงาน และทำอย่างได้ผล และมีรายงานแสดงสถาน การณ์ใช้พลังงานของแต่ละชั้น แต่ละห้องให้เห็นผ่านจอมอนิเตอร์ตลอดเวลา ผู้ที่ไปเยี่ยมอาคารหลังนี้ก็สามารถคลิกเข้าไปดูข้อมูลการใช้งานพลังงานของแต่ละชั้นได้ แม้กระทั่งการใช้ไฟฟ้าของระบบไอที ความสว่างของหลอดไฟแยกเป็นรายวัน รายชั่วโมงได้

“นวัตกรรมใหม่ ๆ ของชไนเดอร์ในอาคารเลอไฮว์ เช่น ม่านจะมีโมชั่นเซ็นเซอร์ หากเปิดม่าน ไฟในห้องจะดับ หรือถ้าภายในห้องไม่มีความเคลื่อนไหว ไฟจะดับอัตโนมัติ สามารถเซตไฟตามแสงสว่างจากภายนอก อาคารจอดรถก็ทำเป็นสถานีชาร์จไฟหรือเติมไฟฟ้าสำหรับรถไฟฟ้า เพื่อเป็นต้นแบบของการประหยัดพลังงาน โดยติดตั้งแผงโซลาร์ไว้บนอาคารจอดรถ เวลาชาร์จไฟพนักงานก็แค่แสดงบัตรเพื่อแตะให้ปล่อยกระแสไฟ”

อาคารเลอไฮว์ เริ่มโครงการนี้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 ช่วยให้ประหยัดไฟจากกว่า 320 กิโลวัตต์ต่อตารางเมตร เหลือเพียง 80 กิโลวัตต์ต่อตารางเมตรเท่านั้น ซึ่งรูปแบบบริหารจัดการอาคารอนุรักษ์พลังงานแบบนี้ เรียกว่า ระบบบิลดิ้ง ออโตเมชั่น ชไนเดอร์นั้นผลิตและมีจำหน่ายมาระยะหนึ่งแล้ว มีการพัฒนาต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ พร้อมจะนำเข้ามาถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับการบริหารจัดการอาคารขนาดใหญ่ในไทย เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกับ พ.ร.บ.อนุรักษ์พลังงานฯ ของไทย สามารถเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้ากำลัง ซีซีทีวี ระบบน้ำ ระบบปรับอากาศ ฯลฯ ที่อาคารมีใช้อยู่แล้วเข้ากับระบบใหม่ได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องสร้างอาคารใหม่

สำหรับรูปแบบของอาคารเลอไฮว์ ได้นำมาปรับใช้กับโรงงานของชไนเดอร์ในไทย ซึ่งผ่านมาตรฐาน ISO 50001 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นรูปแบบที่ชัดเจน แม้กระทั่งพนักงานของชไนเดอร์ก็สอบผ่านการทำหน้าที่ที่ปรึกษาด้านพลังงาน ปัจจุบันในไทยมีอาคารและโรงงานที่ได้มาตรฐานดังกล่าว ประมาณ 10 รายเท่านั้น.
Angry Birds

Garmin เปิดตัว HUD ฉายแผนที่นำทางบนกระจกหน้ารถยนต์




Garmin เปิดตัว HUD ฉายแผนที่นำทางบนกระจกหน้ารถยนต์

Garmin
Garmin เปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ชื่อ HUD (Head-up Display) สามารถ “ฉายภาพ” จากมือถือขึ้นไปบนกระจกหน้าของรถยนต์ได้ ช่วยให้ฉากในหนังไซไฟที่แสดงภาพโฮโลแกรมบนกระจกเป็นจริงการทำงานของ HUD จะต้องใช้ฟิล์มใสชนิดพิเศษเข้าช่วย โดยฟิล์มนี้จะแถมมากับชุด HUD และเราต้องแปะฟิล์มนี้บนกระจกหน้าเสียก่อน นอกจากนี้ในชุด HUD ยังมีทางเลือกโดยแถมชุดเลนส์แยกต่างหาก สำหรับแสดงผลโดยไม่ต้องฉายลงบนกระจกด้วย ทางบริษัทบอกว่า HUD จะปรับความสว่างตามสภาพแสงอัตโนมัติ ทำให้ภาพชัดเจนเสมอไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแสงจ้าหรือเป็นช่วงกลางคืน
ตัวของ HUD เองทำหน้าที่เป็นแค่เครื่องฉายเท่านั้น ส่วนระบบนำทางรถยนต์รวมถึงเสียงนำทาง จะต้องซิงก์ Bluetooth จากแอพ Garmin StreetPilot หรือ NAVIGON มาจากสมาร์ทโฟนอีกต่อหนึ่ง (หรือถ้าคอนโซลรถยนต์มีระบบนำทางของ Garmin ฝังมาก็ซิงก์กันโดยตรง ไม่ต้องผ่านสมาร์ทโฟน)
ภาพที่ฉายบน HUD จะมีทั้งแผนที่ ลูกศรแสดงทิศทางเลี้ยว ตัวเลขบอกระยะทาง ความเร็วในขณะนั้น ระยะเวลาทั้งหมดที่ใช้ในการเดินทาง คำเตือนรถติดและกล้องของจราจร
HUD ขายราคา 129.99 ดอลลาร์ เริ่มวางขายช่วงหน้าร้อน (ของฝรั่ง) ปีนี้ ตอนนี้ยังมีแต่ภาพเรนเดอร์ครับ
ที่มา -Blognone Garmin


Chrome เปิด API เพิ่มเติมให้แอพแบบออฟไลน์เข้าถึง Bluetooth, ไฟล์มัลติมีเดียบนเครื่อง



Chrome เปิด API เพิ่มเติมให้แอพแบบออฟไลน์เข้าถึง Bluetooth, ไฟล์มัลติมีเดียบนเครื่อง


Chrome เริ่มรองรับแอพที่เรียกว่า Packaged Apps (แอพที่ทำงานแบบออฟไลน์แต่เขียนด้วย HTML/JavaScript และรันอยู่บน Chrome) มาได้สักระยะแล้ว (ข่าวเก่า)วันนี้กูเกิลก็ประกาศเพิ่มความสามารถใน Chrome Dev ให้แอพกลุ่มนี้สามารถเข้าถึง API ของเครื่อง และ API ของกูเกิลเองมากขึ้น
  • Identity API – แอพสามารถล็อกอินผ่าน OAuth 2.0 (ซึ่งต้องใช้ในการเชื่อมกับบริการออนไลน์ของกูเกิล)
  • In App Payments API – ซื้อขายสินค้าในแอพผ่านแพลตฟอร์มของ Google Wallet
  • Analytics API – เชื่อมต่อกับ Google Analytics ในการเก็บสถิติของแอพ
  • Media Gallery API – ปรับปรุงใหม่ให้อ่านไลบรารีมัลติมีเดียของเครื่องได้ (เช่น iTunes library) ทำให้แอพสามารถเข้าถึงและเล่นไฟล์มัลติมีเดียที่ผู้ใช้เก็บไว้ในเครื่องได้ เลย
  • Bluetooth API – แอพสามารถเรียกใช้ Bluetooth 4.0 ได้ รองรับโหมด Low Energy
  • Native Messaging API – แอพแบบ Packaged สามารถติดต่อสื่อสารกับแอพแบบเนทีฟที่มีอยู่บนเครื่องได้
ที่มา – Chromium Blog


Corning โชว์กระจกกันรอยรุ่นใหม่ ฆ่าเชื้อโรคได้ในตัว, ลดแสงสะท้อนกลางแจ้ง

Corning โชว์กระจกกันรอยรุ่นใหม่ ฆ่าเชื้อโรคได้ในตัว, ลดแสงสะท้อนกลางแจ้ง


Corning
พูดถึงชื่อของ Corning หลายคงนึกถึง Gorilla Glass กระจกกันรอยที่มีความทนทานบนหน้าจอสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ต (และโน้ตบุ๊กบางรุ่น) แต่อีกไม่นานจะมีกระจกที่ทำได้มากกว่าแค่กันรอย นั่นคือสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ด้วยรายละเอียดของกระจกตัวใหม่นี้มาจาก Jeffrey Evenson รองประธานของ Corning (ผู้ผลิตกระจก Gorilla Glass) ได้เผยนวัตกรรมใหม่บนกระจกกันรอยรุ่นต่อไปในงาน MIT Technology Review เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า Corning กำลังพัฒนากระจกกันรอยที่สามารถฆ่าแบคทีเรีย และไวรัสบนหน้าจอ โดยเทคโนโลยีที่ว่านี้มาจากแผนกเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพของ Corning เองที่โยกมาเพื่อใช้งานกับกระจกกันรอยแทน เพราะเห็นว่ามีตลาดที่ใหญ่กว่า
ทาง Corning ได้โชว์ผลทดสอบการฆ่าแบคทีเรียด้วยการเปรียบเทียบปริมาณแบคทีเรียอีโคไล ที่มีจำนวนน้อยลงกว่ากระจกกันรอยแบบธรรมดา เมื่อเวลาผ่านไป แสดงให้เห็นว่ากระจกกันรอยตัวใหม่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้จริง
นอกจากเรื่องกระจกกันรอยฆ่าเชื้อโรคแล้ว Corning ยังโชว์ว่าที่ผลงานใหม่อีกรุ่นอย่างกระจกลดแสงสะท้อน ซึ่งยังไม่มีรายละเอียดออกมาว่าใช้เทคโนโลยีใด มีเพียงภาพตัวอย่าง และบอกว่าวงกลมตรงกลางคือกระจกรุ่นใหม่ซึ่งแตกต่างกับกระจกทั่วไปที่อยู่ รอบนอกอย่างสิ้นเชิง
ที่มา -Blognone Mashable


ThinkPad T440s อัพเกรดไปใช้ Haswell แล้ว หน้าจอ Full HD แบตเตอรี่สองก้อน



ThinkPad T440s อัพเกรดไปใช้ Haswell แล้ว หน้าจอ Full HD แบตเตอรี่สองก้อน

ThinkPad
หลังการเปิดตัวซีพียู Haswell ตอนนี้ ThinkPad ก็อัพเกรดด้วยการออกเครื่องรุ่น T440s ออกมาเป็นตัวแรกในชุด โดย T440s จะใช้คีย์บอร์ด 6 แถวและทัชแพดขนาดใหญ่ไม่มีปุ่มแยกตามแนวทางใหม่ของ ThinkPad ในช่วงหลังความเปลี่ยนแปลง ได้แก่ ซีพียู Haswell, หน้าจอ HD+/FHD, แบตเตอรี่สองก้อน หนึ่งก้อนเปลี่ยนเองไม่ได้และอีกก้อนเปลี่ยนได้เอง ทำให้สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ขณะใช้งานต่อเนื่องไปได้เรื่อยๆ, NFC ในตัว, ไมโครโฟนคู่, และลำโพง Dolby
ไม่มีข้อมูลอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นราคา, วันเริ่มต้นขาย, หรือออปชั่นที่ให้เลือก
ที่มา – Lenovo
upic.me
upic.me
upic.me


Samsung Galaxy Note 3 (Note III) ซัมซุง กาแลคซี่ โน้ต 3 อัพเดทสเปค ข้อมูลล่าสุด



Samsung Galaxy Note 3 (Note III) ซัมซุง กาแลคซี่ โน้ต 3 อัพเดทสเปค ข้อมูลล่าสุด [10-ก.ค.-56] : หลุดสเปค Samsung Galaxy Note 3 (Note III) จากหน้าเว็บไซต์ อาจมีให้เลือกถึง 4 รุ่น






[10-กรกฏาคม-2556] ET News สำนักข่าวในเกาหลีใต้ เผยว่า Samsung Galaxy Note 3 (Note III) จะมีให้เลือกกันถึง 4 รุ่น 4 สไตล์ แบบเดียวกับ Samsung Galaxy S4 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านั้นนั่นเอง
โดยรุ่นแรก จะเป็นรุ่นระดับพรีเมียม ที่มาพร้อมกับ หน้าจอที่ไม่แตกหักง่าย (unbreakable), กล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และฟีเจอร์การใช้งานเฉพาะ ส่วนรุ่นที่สอง ตัวเครื่องจะเป็นพลาสติก หน้าจอแบบ AMOLED และกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งคาดว่า รุ่นนี้น่าจะเป็นรุ่นที่วางจำหน่ายทั่วโลกด้วย
รุ่นที่สาม เป็นตัวเครื่องพลาสติกเช่นเดียวกับรุ่นที่ 2 แต่หน้าจอเป็น LCD ครับ ส่วนกล้องด้านหลัง มีความละเอียดที่ 13 ล้านพิกเซลเหมือนกัน และรุ่นสุดท้าย เป็นตัวเครื่องพลาสติก หน้าจอ LCD แต่กล้องด้านหลัง ความละเอียดเพียง 5 ล้านพิกเซล และคาดว่า น่าจะเป็นรุ่นที่ราคาถูกที่สุดด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น ในหน้าแสดงผลิตภัณฑ์ข้อมูล หรือ UAPROF ได้มีการเอ่ยถึง โค้ดเนม 2 รุ่น นั่นก็คือ SM-N900T และ SM-N900A ซึ่งเป็นโมเดลของ Samsung Galaxy Note 3 (Note III) นั่นเอง โดยได้เผยรายละเอียดบางส่วนของ Samsung Galaxy Note 3 ออกมา นั่นก็คือ ความละเอียดของหน้าจอแสดงผลอยู่ที่ 1080×1920 พิกเซล และใช้ซีพียู ARM ครับ
อย่างไรก็ดี ข้อมูลข้างต้นนั้น ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า เป็นความจริงหรือไม่ ซึ่งกำหนดการเปิดตัว Samsung Galaxy Note 3 ก็คือ วันที่ 4 กันยายนนี้ครับ - gsmarena.com
Samsung Galaxy Note 3 (Note III) เปิดตัว 4 กันยายนนี้
และเมื่อไม่นานมานี้ แหล่งข่าววงใน ของผู้จัดงาน Samsung Unpacked ได้ออกมาเผยว่า Samsung Galaxy Note 3 (Note III) จะเปิดตัวในวันที่ 4 กันยายนนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นที่เบอลิน ประเทศเยอรมนี
โดยงาน Samsung Unpacked ในปีนี้ จะจัดขึ้นก่อนงาน IFA 2013 เพียงไม่กี่วันเท่านั้น ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมา Samsung Galaxy Note 2 ก็เปิดตัวในงาน Samsung Unpacked เช่นกัน โดยซัมซุง จะเริ่มโปรโมทงาน Samsung Unpacked ในเดือนสิงหาคม ที่จะถึงนี้ครับ - phoneareana.com
หลุดผลทดสอบ AnTuTu บน Samsung Galaxy Note 3 รัน Android 4.3 Jelly Bean
เรียกได้ว่า สาวก Galaxy Note เตรียมเก็บเงินรอไว้ได้เลยครับ เพราะ Samsung Galaxy Note 3 เตรียมเปิดตัวเร็วๆ นี้แน่นอน โดยล่าสุด ได้มีผลทดสอบ AnTuTu benchmark หลุดออกมาแล้ว
โดยในรายละเอียดของ AnTuTu นั้น ได้เผยให้เห็นสมาร์ทโฟนรุ่นหนึ่ง รหัส GT-N7200 ที่คาดว่า เป็น Samsung Galaxy Note 3 (Note III) อย่างแน่นอน (Samsung Galaxy Note 2 รหัส GT-N7100) ที่สามารถทำคะแนนไปได้ถึง 27,914 คะแนน ผ่านซีพียูความเร็ว 1.6GHz คาดกันว่า ซีพียูที่ใช้บน Samsung Galaxy Note 3 นั้น น่าจะเป็นตัวเดียวกับที่ใช้บน Samsung Galaxy S4 ครับ เนื่องจากสามารถทำคะแนนทดสอบออกมาได้ใกล้เคียงกันมาก (Samsung Galaxy S4 ได้ 27,417 คะแนน)
นอกจากนี้ Samsung Galaxy Note 3 (Note III) ยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 4.3 Jelly Bean อีกด้วยครับ ส่วน Samsung Galaxy Note 3 จะเปิดตัวในงาน IFA 2013 ปลายเดือนสิงหาคมนี้หรือไม่ เร็วๆ นี้ได้ทราบกันอย่างแน่นอนครับ -phonearena.com
Samsung Galaxy Note 3 มาพร้อมหน้าจอขนาด 6 นิ้ว ไม่โค้งงอ
บริษัทแห่งหนึ่งในเกาหลีใต้ ได้เผยข้อมูลออกมาว่า Samsung Galaxy Note 3 จะมาพร้อมหน้าจอขนาด 6 นิ้ว แบบ AMOLED display และเป็นหน้าจอแบบปกติ ไม่ใช่แบบโค้งงอได้ หรือ YOUM ตามที่มีข่าวลือออกมาก่อนหน้านั้นครับ
โดยแหล่งข่าวเผยว่า ทางซัมซุงคงยังไม่พร้อมที่จะผลิตหน้าจอแบบ OLED ที่มีลักษณะโค้งงอได้ออกมาในตอนนี้ นอกจากนี้ หน้าจอดังกล่าว สามารถผลิตต่อเดือนได้เพียง 24,000 ชิ้นเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการอย่างแน่นอน ทำให้ซัมซุง ต้องตัดประเด็นนี้ทิ้งไป และหันมาใช้หน้าจอแบบปกติแทนนั่นเองครับ
ส่วนทางคู่แข่งจากประเทศเดียวกันอย่าง แอลจี ที่มีข่าวว่า จะเปิดตัวอุปกรณ์ที่มาพร้อมหน้าจอแบบโค้งงอได้ ภายในปีนี้ ก็มีปัญหาในเรื่องการผลิตเช่นเดียวกัน จึงมีความเป็นไปได้ที่อาจจะเลื่อนเปิดตัวไปอีก อย่างไรก็ดี หน้าจอแบบโค้งงอ ระหว่าง ซัมซุง กับ แอลจี นั้น ใช้เทคโนโลยีในการผลิตคนละแบบกัน - androidauthority.com
หลุด สเปค Samsung Galaxy Note 3
ทาง SamMobile ได้เผยสเปคของ Samsung Galaxy Note 3 (Note III) ออกมาเล็กน้อยด้วย ดังนี้
- หน้าจอขนาด 5.99 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียดระดับ Full HD
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
- ชิปเซ็ท Exynos 5 แบบ 8 คอร์
- Mali 450 GPU แบบ 8 คอร์
- RAM 3GB
- รัน Android 4.2.2 หรือ Android 4.3
- TouchWiz Nature UX 2.0
ส่วนกำหนดการเปิตดัว Samsung Galaxy Note 3 (Note III) จะเป็นช่วงปลายเดือนสิงหาคม - ต้นเดือนกันยายน ในงาน IFA 2013 ที่เยอรมนีครับ - sammobile.com
Samsung Galaxy Note 3 อาจใช้บอดี้โลหะ แทนพลาสติก
ข่าวออกมาว่า ซัมซุง อาจเลิกใช้วัสดุประเภท โพลีคาร์บอเนต ในการผลิตบอดี้ของ Samsung Galaxy Note 3 (Note III) และหันมาใช้วัสดุแบบโลหะแทนครับ
ว่ากันว่า สาเหตุที่ทำให้ซัมซุง เปลี่ยนใจมาใช้โลหะผลิตเป็นบอดี้แทนนั้น เป็นเพราะความสำเร็จของ HTC One ที่ให้รูปลักษณ์ของตัวเครื่องที่ดูหรูหราขึ้น ส่วนวัสดุแบบโพลีคาร์บอเนตที่ซัมซุงเลือกใช้บน Samsung Galaxy S4 (S IV) นั้น อาจทำให้มือถือดูไม่สมราคา ซึ่งการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์นั้น ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการตีตลาดครับ โดยก่อนหน้านั้น Samsung Galaxy S4 (S IV) ก็มีแผนที่จะใช้บอดี้เป็นโลหะด้วยเช่นกัน แต่เพราะข้อจำกัดด้านเวลา ทำให้แผนดังกล่าวต้องยกเลิกไป
เว็บไซต์ SamMobile อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวภายในของซัมซุง โดยเผยว่า ซัมซุงกำลังเริ่มให้ความสำคัญกับการดีไซน์ และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ครับ ซึ่ง Samsung Galaxy Note III (Note 3) ที่จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ ไม่เพียงแค่เปลี่ยนวัสดุเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนการออกแบบตัวเครื่องใหม่ ที่จะไม่คล้ายกับของเดิม อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวไม่ได้เผยว่า Samsung Galaxy Note 3 จะใช้โลหะประเภทใด แต่มีความเป็นไปได้สูงที่จะใช้ อะลูมิเนียม ครับ - digitaltrends.com
Samsung Galaxy Note III (Note 3) อาจมาพร้อมหน้าจอ 5.9 นิ้ว
เว็บไซต์ The Korea Times ได้เผยว่า Samsung Galaxy Note III (Galaxy Note 3) นั้น น่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.9 นิ้วครับ ส่วนซีพียูนั้น น่าจะเป็น Exynos processor แบบ 8 คอร์
ถ้าหาก Samsung Galaxy Note III (Galaxy Note 3) มีขนาดหน้าจอที่ 5.9 นิ้วจริง ก็ถือว่า มีคู่แข่งหลายรายเช่นกัน ทั้ง Huawei Ascend Mate ขนาด 6.1 นิ้ว รวมไปถึง ZTE Grand Memo ขนาด 5.7 นิ้ว และเรียกได้ว่า Samsung Galaxy Note นั้น กุมตลาดทั้ง Phablet และ แท็บเล็ตแทบทุกขนาดครับ ทั้งสมาร์ทโฟนอย่าง Samsung Galaxy Note, แท็บเล็ตขนาดกลาง อย่าง Samsung Galaxy Note 8.0 ที่เปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ และสุดท้ายเป็นแท็บเล็ตขนาดใหญ่ นั่นก็คือ Samsung Galaxy Note 10.1 นั่นเอง
ส่วนข้อมูลดังกล่าว จะเป็นความจริงมากน้อยแค่ไหน เร็วๆ นี้น่าจะรู้คำตอบครับ - techcrunch.com


Angry Birds

หลุดภาพแท็บเล็ต Windows RT ที่โนเกียหยุดพัฒนาไปแล้ว, ลือเปิดตัวแท็บเล็ต Windows 8.1


หลุดภาพแท็บเล็ต Windows RT ที่โนเกียหยุดพัฒนาไปแล้ว, ลือเปิดตัวแท็บเล็ต Windows 8.1

Nokia
ข่าวแรก มีคนโพสต์ภาพแท็บเล็ตรัน Windows RT ของโนเกีย พร้อมระบุสเปคว่ามันใช้ซีพียู Tegra 3 ที่ 1.3 กิกะเฮิรตซ์, แรม 2 กิกะไบต์, มีพอร์ต HDMI กับ USB, รองรับ LTE และจอภาพรองรับการสัมผัส 16 จุด โดยจากภาพพอบอกได้ว่าแท็บเล็ตนี้มีหน้าจอราว 10.1 นิ้ว และมีพอร์ตชาร์จไฟคล้ายกับ MagSafe บน MacBooks และพอร์ตที่ถูกใช้ใน Surface ของไมโครซอฟท์ อย่างไรก็ตามไม่มีการพูดถึงฝาปิดที่ฝังแบตเตอรี่ภายใน ซึ่งแปลงร่างได้ทั้งเป็นแป้นพิมพ์และเป็นขาตั้งแท็บเล็ตตามข่าวลือก่อนหน้านี้
เว็บไซต์ Windows Phone Central กล่าวว่าจากการตรวจสอบในเบื้องต้นไม่พบว่าภาพนี้ถูกตัดต่อขึ้นมา ส่วนเว็บไซต์ The Verge ให้ข้อมูลเพิ่มว่า แท็บเล็ตดังกล่าวถูกยกเลิกการพัฒนาไปแล้ว และโนเกียจะมุ่งทำแท็บเล็ตรัน Windows 8 ตัวเต็มแทน – Naver Cafe ผ่าน Windows Phone Central ผ่าน The Verge

อีกข่าว เว็บไซต์ Nokiapoweruser รายงานว่า โนเกียจะเปิดตัวแท็บเล็ตที่มากับ Windows 8.1 แทนที่จะเป็น Windows 8 โดยกำหนดการเปิดตัวแท็บเล็ตนั้นจะขึ้นอยู่กับกำหนดการปล่อย Windows 8.1 ตัวจริง (RTM) ซึ่งไมโครซอฟท์ระบุว่าจะอยู่ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ – Nokiapoweruser
 ที่มา – Blognone


Angry Birds

รีวิว Acer R7 โน้ตบุ๊กรูปแบบใหม่จากเอเซอร์



           รีวิว Acer R7 โน้ตบุ๊กรูปแบบใหม่จากเอเซอร์

Acer
ปีที่ผ่านมาผู้ผลิตโน้ตบุ๊กพยายามปรับตัวกันมากขึ้นด้วยการออกโน้ต บุ๊กที่แปลงเป็นแท็บเล็ตได้จำนวนมาก แต่ส่วนมากถ้าไม่ใช่เครื่องแบบถอดตัวแท็บเล็ตแยกออกไปได้ ก็มักจะเป็นเครื่องสไลด์พับหน้าจอเป็นแท็บเล็ตAcer R7 เป็นโน้ตบุ๊กที่ออกแบบมาได้แปลก (จนน่าจะเรียกได้ว่าประหลาด) สำหรับโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ๆ ผมเลยขอยืมเครื่องมาทดสอบว่ามันจะเวิร์คจริงแค่ไหน

สเปค

เครื่องที่ผมได้รับมาเป็น Core-i5 Ivy Bridge เครื่องแต่ละรุ่นย่อยอาจจะต่างไปบ้าง แต่ก็เป็น Ivy Bridge ทั้งหมด แรม 8GB, HDD 1TB, กราฟิก GTX750, และหน้าจอ 15.6″ Full HD โดยรวมๆ ก็เป็นเครื่องสเปคสูงพอสมควร การใช้งานน่าจะครบหมดทั้งเล่นเกมและทำงาน
ที่เป็นข้อจำกัดสำคัญของ R7 คือ มันไม่มีทั้งพอร์ต VGA และพอร์ตแลนมาให้ ควรระวังว่าต้องใช้ทั้งสองพอร์ตนี้รึเปล่า

รูปร่างภายนอกและการใช้งาน

upic.me
เนื่องจากตัวซอฟต์แวร์ข้างในที่เป็น Windows 8 ตามที่หลายคนเคยใช้มาแล้วและมีรีวิวไปแล้วหลายรอบ ผมคงไม่พูดซ้ำอีก แต่การจะพูดถึงการใช้งานจากรูปร่างของตัว Acer R7 เป็นหลัก
upic.me
การใช้งานเริ่มต้นเมื่อเราเปิดกล่องขึ้นมา เราจะพบว่าหน้าตามันคือโน้ตบุ๊กธรรมดาที่ออกแบบให้ทัชแพดขึ้นไปอยู่ด้านบน คีย์บอร์ดแทน การใช้งานในโหมดนี้หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดี แต่เมื่อใช้ๆ ไปจะรู้สึกแปลกๆ
upic.me
ทัชแพดที่ใส่มานั้นจะใช้งานได้พอสะดวกบ้างคงเป็นการใช้งานในโหมดโน้ตบุ๊ก นี้เท่านั้น แต่ในการใช้งานจริงจะไม่สะดวกเอามากๆ เพราะเราต้องยกมือออกจากคีย์บอร์ดเพื่อไปเลื่อนเคอร์เซอร์ ทำให้การใช้งานจริงจังทำได้ช้าลง น่าเสียดายที่ Acer ไม่ได้ใส่อุปกรณ์ทดแทนเช่น trackpoint มาด้วย ไม่อย่างนั้นการใช้งานจริงคงพอปรับตัวกันได้
ที่ค่อนข้างดีคือสัมผัสคีย์บอร์ด ผมเองมีใช้เอเซอร์รุ่นราคาถูกมาหลายรุ่นและคิดว่าสัมผัสคีย์บอร์ดไม่ดีนัก แต่ใน R7 สัมผัสคีย์บอร์ดที่ได้ค่อนข้างแน่น ตอบสนองได้ดี การพิมพ์ยาวๆ ไม่มีปัญหาเมื่อยล้าอะไร
upic.me
ลำโพงที่ใส่มาด้วยเป็นลำโพง Dolby ก็นับว่าเสียงดีชนิดที่ใช้ดูหนังได้โดยไม่ต้องหาลำโพงมาเพิ่มเติม
upic.me
โหมดที่สองคือ Ezel ตามชื่อก้านด้านหลังที่เอเซอร์เรียกว่า Ezel hinge ผมพบว่ามันเป็นโหมดที่เวิร์คที่สุดสำหรับเครื่อง R7 แล้วจริงๆ ทั้งการวางบนโต้ะและการวางบนตัก ในโหมด Ezel จะทำให้หน้าจอเข้ามาอยู่ใกล้ตัวเรามากขึ้นกว่าโน้ตบุ๊กทั่วไป แต่เมื่อใช้ร่วมกับจอขนาด 15.6″ ที่ค่อนข้างใหญ่และความละเอียดสูง ก็ทำให้ใช้งานได้สะดวกโดยมีพื้นที่การใช้งานเพิ่มขึ้น ผมเองใช้งานมันโดยแบ่งหน้าจอครึ่งหนึ่งตลอดเวลา
ในการใช้งานจริงโหมดนี้จะทำให้มือเอื้อมเข้าไปใช้ทัชแพดยากขึ้นอีกหน่อย การใช้งานหลักๆ จะถูกบังคับให้ต้องใช้จอสัมผัสโดยอัตโนมัติ ผมเองมีปัญหากับการกดปุ่มเล็กๆ ในโหมดเดสก์ทอปบ้าง แต่หากไม่ได้เอาไปใช้วางตัก การใช้งานจริงอาจจะใช้แทนเครื่องเดสก์ทอป ก็นับว่าไม่มีปัญหาอะไรเมื่อใช้เม้าส์ภายนอก จอที่ยืดมาด้านหน้าทำให้เครื่องโดยรวมกินพื้นที่โต๊ะน้อยลง ปัญหาคีย์บอร์ดไม่มีที่รองเพราะตัวคีย์บอร์ดอยู่ด้านล่างสุดก็จะหายไปหากใช้ งานบนโต๊ะ
upic.me
โหมด Pad เนื่องจากตัวเองผมเองใช้งานแอพพลิเคชั่นที่เป็น Windows 8 UI ค่อนข้างน้อย การใช้งานในโหมดนี้จึงจำกัดลงไป ที่ใช้งานบ้างคือการแสดงภาพหรือสไลด์ให้คนรอบโต๊ะดู ด้วยน้ำหนักสองกิโลกรัมกว่าๆ การไปใช้ R7 เป็นแท็บเล็ตคงไม่เหมาะนัก
upic.me
โหมดสุดท้ายคือโหมด Display มันคือการหันจอกลับไปให้คนฝั่งตรงข้ามโหมดนี้ผมนึกกรณีใช้งานออกหลักๆ คือการดูหนังเป็นหลัก หรืออาจจะเป็นการเปิดหน้าจอให้คนฝั่งตรงข้ามบ้าง เพราะการใช้งานหลักๆ หากวางบนโต๊ะก็ต้องหมุนเครื่องไปอีกด้าน อีกอย่างคือปุ่มวินโดวส์จะลอยขึ้นไปด้านบนทำให้งงกันพอสมควร

สรุป

ผมทดลองใช้งาน Acer R7 มาหนึ่งสัปดาห์ คิดว่าคนที่เหมาะกับมันจริงๆ คือคนที่มองหาเครื่อง All-in-One หรือคนที่ซื้อโน้ตบุ๊กโดยใช้งานแบบเครื่องเดสก์ทอป น้ำหนักเครื่องที่ค่อนข้างมากของ R7 และคีย์บอร์ดที่อยู่ใต้เครื่องจึงเหมาะกับการใช้งานบนโต๊ะมากกว่า โดยที่เครื่องยังเก็บได้ง่ายและนำไปใช้นอกสถานที่ได้
ที่มา- Blognone


Angry Birds